สค. ผนึกหน่วยงาน จ.ปทุมธานี
ต่อยอดเครือข่ายชมรมริบบิ้นขาว
นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เป็นประธานเปิดโครงการ “พลังริบบิ้นขาว ร่วมสร้างครอบครัวไร้ความรุนแรง” กล่าวรายงานโดย นางสาวนฤมล พงษ์สุภาพ ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี ณ โรงเรียนธัญรัตน์ จังหวัดปทุมธานี มุ่งติดอาวุธทางปัญญาแก่สมาชิกชมรมให้มีทั้งความรู้ ทักษะ และความสามารถในการขับเคลื่อนอย่างมีพลัง กลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชน “ต้นกล้า” ของครอบครัวและสังคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญยิ่งในการร่วมสร้างครอบครัวไร้ความรุนแรง หรือครอบครัวที่อบอุ่นแข็งแรงในวันข้างหน้า
นายเลิศปัญญา กล่าวว่า กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ตระหนักถึงปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ซึ่งเป็นปัญหาที่สั่งสมมาช้านานและเกิดขึ้นในทุกประเทศ ทุกชนชั้น ทุกมิติของสังคม ทั้งในระดับครอบครัว ชุมชน สถานศึกษา และสถานที่ทำงาน ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อนและมีความซับซ้อน โดยจะเห็นได้ว่าทุกภาคส่วนมีความมุ่งมั่นและพยายามร่วมมือกันเพื่อดำเนินงานด้านการป้องกัน แก้ไข และช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
นายเลิศปัญญา กล่าวต่ออีกว่า ในปีงบประมาณ 2559-2560 ที่ผ่านมา สค. ได้นำร่องดำเนินการกับกลุ่มเป้าหมายในสถาบันการศึกษา 15 จังหวัดภาคกลางแล้ว ด้วยการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรง สร้างระบบเครือข่ายยุติความรุนแรง และส่งเสริมกลไกในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวในระดับท้องถิ่นให้เกิดความเข้มแข็ง แก่เยาวชนอายุตั้งแต่ 14 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในสถาบันการศึกษา จำนวน 15 แห่ง (แห่งละ 100 คน) ในพื้นที่ 15 จังหวัดภาคกลาง ดำเนินการจัดตั้ง “ชมรมริบบิ้นขาว” ที่มีรูปแบบโครงสร้างการบริหารงานภายในชมรมอย่างชัดเจน ประกอบด้วย ประธาน รองประธาน ฝ่ายเพื่อนใจไร้ความรุนแรง ฝ่ายกิจกรรม และฝ่ายจัดหาทุน เพื่อเป็นช่องทางให้เครือข่ายสมาชิกชมรมได้มีส่วนร่วมเป็นต้นแบบในระดับท้องถิ่นหรือจังหวัดของตนเอง รวมถึงส่งเสริมการสร้างภาคีเครือข่ายป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว และร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ตามแนวคิด “ไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย และไม่ทำความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว”
ซึ่งถือเป็นการรวมพลังของชมรมริบบิ้นขาว ด้วยการสร้างเสริมพลัง (Empowerment) ให้เกิดการเรียนรู้ สร้างสรรค์ผลงาน และพัฒนาศักยภาพของตนเองและสถาบันร่วมกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการดำเนินงาน อีกทั้งยังเกิดระบบการสร้างภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็ง สำหรับเป็นกลไกในการป้องกันแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่รับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมรวมพลังชมรมริบบิ้นขาวภายใต้โครงการ พัฒนาทักษะแกนนำเครือข่ายชมรมริบบิ้นขาว (White Ribbon Club) ขึ้น เพื่อให้แกนนำเครือข่ายชมรมริบบิ้นขาวในพื้นที่ 15 จังหวัดภาคกลางดังกล่าวข้างต้น ได้ร่วมกันถอดบทเรียนการดำเนินงานที่ผ่านมา เพื่อนำผลที่ได้รับไปใช้ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องต่อไป ให้เป็นต้นแบบในการนำไปสู่การจัดตั้งชมรมริบบิ้นขาวให้ครอบคลุมระดับพื้นที่ทั่วประเทศ โดยผ่านกลไกศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว ทั้ง 8 แห่ง ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับพื้นที่ในสังกัด สค. เพื่อจะได้ร่วมกันขับเคลื่อนด้วยความพร้อมเพรียงและบรรลุเป้าหมายการดำเนินการในรูปแบบเดียวกัน
“ในปีงบประมาณ 2561 นี้ จะเป็นการต่อยอดการทำงานจากปีงบประมาณ 2559 – 2560 โดยบูรณาการร่วมกับสถาบันการศึกษา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน 2 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนธัญรัตน์ จังหวัดปทุมธานี แห่งนี้ กับโรงเรียนบ้านหลวงวิทยา จังหวัดนครปฐม ซึ่งจะเปิดงานเช่นเดียวกันนี้ในสัปดาห์หน้า ตลอดจนหน่วยงาน พม. One Home และภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในระดับพื้นที่ ซึ่งเป็นลักษณะการเข้าร่วมโครงการ “พลังริบบิ้นขาว ร่วมสร้างครอบครัวไร้ความรุนแรง” มีวัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่แกนนำในโรงเรียน และเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนภารกิจด้านยุติความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง มีรูปแบบกิจกรรมประกอบด้วย การนำเสนอผลการขับเคลื่อนการดำเนินงาน การจัดแสดงบูธนิทรรศการ การแสดงความสามารถ
โดยศูนย์เรียนรู้ฯ ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกชมรมร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานและเปิดพื้นที่ให้ดำเนินกิจกรรมอย่างเต็มความสามารถ ดังจะเห็นได้จากวันนี้ที่เด็กๆ ได้นำผลิตภัณ์จากฝีมือของตนเองมาจำหน่าย ก่อให้เกิดรายได้ เป็นแรงผลักดันให้มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ออกมาจำหน่ายสร้างความมั่นคงให้กับตนเองและครอบครัว ตลอดจนเป็นจุดยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ให้เข้าสู่วงจรของสิ่งที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ สค. จะเติมเต็มความรู้ในรูปแบบของการอบรมในหัวข้อ “หยุด! คำร้าย… ทำลายครอบครัวและการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์” โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ และมอบโล่ให้แก่โรงเรียนอีกด้วย” นายเลิศปัญญา กล่าวในตอนท้าย