RPเพิ่มเรือ-รถดันผู้ใช้บริการขึ้น20%
คาดปี61 ยอดพุ่งแตะ 1.5 ล้านคน
RP เพิ่มเรือลำที่ 14 เสริมบริการขนส่งรถ-เรือเฟอร์รี่ข้ามระหว่างเกาะครบวงจร เตรียมปรับพื้นที่ท่าเรือเป็นจุดนัดพบ(Meeting Station) ตอบสนองลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ บริการที่ท่าเรือและบนเรือและให้เข้าถึงถึงไว-ไฟได้ทุกพื้นที่ ขึ้นแท่นผู้นำด้านขนส่งเชื่อมต่อ 2 มหาสมุทร ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ใน5ปี มองปี 61 แนวโน้มท่องเที่ยวไทยโตต่อ โดยเฉพาะทัวร์จีน ยอดเพิ่มรวม 40 ล้านคนจาก 35ล้านคนปี60 คาดผู้มาใช้บริการเรือเฟอร์รี่เพิ่ม 1.5 ล้านคน จากยอด 1.2 ล้านคนปี60 เน้นเจาะกลุ่มจีน พร้อมเดินหน้ารุกงานด้านสิ่งแวดล้อม วางแผนระยะยาว 10 ปีทำกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับงานขนส่งเดินเรือ
นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด(มหาชน) หรือ RP กล่าวว่า ธุรกิจเรือเฟอร์รี่ข้ามเกาะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีที่ผ่านมานอกเหนือจากให้บริการเส้นทางระหว่าง ดอนสัก-สมุย-พะงัน แล้ว RP ยังได้ขยายบริการหลายประเภท โดยร่วมมือกับพันธมิตร อาทิ เพิ่มเส้นทางให้บริการไปยังเกาะเต่า บริการรถร่วมโดยสารสาธารณะหรืออาร์พี ทรานสปอร์ต เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางทั้งขาเข้าและขาออกเกาะครบวงจร นอกจากนี้ยังจัดทำโปรโมชั่นบัตรโดยสารรายสัปดาห์ราคาประหยัด“ออก้า การ์ด” สำหรับผู้ใช้บริการที่เดินทางบ่อย ล่าสุดคือปรับเวลาจองตั๋วรถลงเรือล่วงหน้าเหลือเพียง 3 ชั่วโมงก่อนเดินทาง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเดินทางได้เร็วขึ้น ทำให้ปี 2560 มียอดผู้ใช้บริการราว 1.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปี 2559 ส่วนบริการรถลงเรืออยู่ที่ประมาณ 620,000 คัน
สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 2561 คาดว่าแนวโน้มการท่องเที่ยวรวมทั้งการเดินทางและขนส่งทางทะเล จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน จึงวางเป้าหมายที่จะเพิ่มบริการให้หลากหลายประเภทเพื่อรองรับลูกค้าในกลุ่มดังกล่าว
“ ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทยประมาณ 35 ล้านคนและคาดว่าจะเพิ่มเป็น 40 ล้านคนในปีนี้ เมื่อก่อนลูกค้าที่เดินทางมาท่องเที่ยวเกาะสมุยและเกาะพะงันกว่า 80% เป็นลูกค้าจากยุโรปและอเมริกา แต่ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นให้ความสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับที่ RP ร่วมมือกับ WeChat และ Alipay อำนวยความสะดวกด้านการใช้จ่ายเงินหยวนให้กับนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ดังนั้นในปีนี้เราจะเน้นเจาะลูกค้ากรุ๊ปทัวร์จีนให้มากขึ้น”
กรรมการผู้จัดการ RP กล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมายนอกจากเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการแล้ว ยังจะเพิ่มบริการใหม่ๆ โดยวางเป้าหมายให้ RP เป็นสถานที่นัดพบหรือ Meeting Station โดยมีร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ ให้บริการทั้งที่ท่าเรือและบนเรือ รวมถึงบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงครอบคลุมในทุกพื้นที่เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่ม ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ซึ่งมั่นใจว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า ท่าเรือราชาเฟอร์รี่จะเป็นผู้นำด้านขนส่งที่เชื่อมต่อระหว่าง 2 มหาสมุทร ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน เป็นท่าเรือขนาดใหญ่ที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล
นอกจากนี้บริษัทยังให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงได้กำหนดแผนงานระยะยาว 10 ปี เพื่อทำกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับงานขนส่งเดินเรือทางทะเล โดยปีนี้จะเริ่มจากการจัดการขยะเปียกภายในเรือ,ท่าเรือและงานอนุรักษ์ปะการังก่อน
ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ซื้อเรือใหม่เพิ่มอีกหนึ่งลำ คือ อาร์ 11 ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในกองเรือที่มีอยู่ สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากกว่า 400 คน บรรทุกรถยนต์ขนาด 4 ล้อได้ 80 คันหรือรถบรรทุกขนาดใหญ่ได้ 40 คัน แล่นด้วยความเร็วเฉลี่ย 17 ไมล์ทะเล/ชั่วโมง โดยให้บริการเส้นทางดอนสัก-สมุย-ดอนสัก โดยในขณะนี้ RP มีกองเรือให้บริการแล้ว 14 ลำ และมีแผนที่จะซื้อเรือเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการได้อย่างเพียงพอ โดยวางเป้าหมายจะมีผู้มาใช้บริการเพิ่ม 1.5 ล้านคนในปีนี้
ขอบคุณภาพจาก-www.facebook.com/rajaferryport/