กระทรวงสาธารณสุข เตรียมพร้อมประชาชนเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสง่างาม ด้วยยุทธศาสตร์ 3 S คือ Strong : Healthy มีสุขภาพดี, Social การมีส่วนร่วมในสังคม และ Security ความมั่นคงปลอดภัย เพื่ออนาคตเป็นผู้สูงวัยอย่างมีคุณภาพ รอบรู้ด้านสุขภาพ พึ่งพาตนเองได้ และสามารถเข้าถึงระบบบริการสุขภาพ พร้อมจัดระบบดูแลผู้สูงอายุระยะยาว การดูแลผู้สูงอายุในชุมชนแบบจิตอาสา และระบบบริการปฐมภูมิ จัดตั้งทีมคลินิกหมอครอบครัว ปัจจุบันมีแล้วกว่า 600 ทีม ซึ่งได้ผลดีและช่วยประหยัดงบประมาณ จากการศึกษาพบ หากจัดการคลินิกหมอครอบครัวได้ครอบคลุมทั้งประเทศ จะสามารถประหยัดงบประมาณดูแลผู้สูงอายุได้มากกว่า 5 หมื่นล้านบาทต่อปี
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันโครงสร้างประชากรไทยเข้าสู่นิยามสังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเด็กเกิดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง และคนไทยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น มีอายุยืนยาวขึ้น ภาครัฐและสังคมได้ร่วมมือกันเตรียมรองรับ ดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ. ผู้สูงอายุ 2546 และคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ขับเคลื่อน ดำเนินการ ภายใต้ แผนผู้สูงอายุแห่งชาติ พ.ศ 2552 โดยมียุทธศาสตร์ให้ผู้สูงอายุสามารถ พึ่งพาตนเองได้ เข้าถึงระบบบริการสุขภาพ และมีความมั่นคงในชีวิต
นอกจากนั้นกระทรวงสาธารณสุข ยังได้ MOU ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการร่วมกันภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 S คือ Strong : Healthy มีสุขภาพดี Social การมีส่วนร่วมในสังคม และ Security ความมั่นคงปลอดภัย เน้นการทำให้ ผู้สูงอายุ มีความ รอบรู้ด้านสุขภาพ Health literacy และจัดระบบดูแลผู้สูงอายุ
โดยผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียง จัดให้มีระบบดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาว มีผู้จัดการดูแลผู้สูงอายุ ในชุมชนร่วมกับผู้ดูแลผู้สูงอายุ ที่ดูแลผู้สูงอายุในชุมชนแบบจิตอาสา โดยปัจจุบันมีผู้ดูแลผู้สูงอายุ แล้ว 53,041คน สามารถดูแลผู้สูงอายุติดบ้านติดเตียง จำนวน 171,193 คน และจะขยายให้สามารถดูแลผู้สูงอายุให้ครอบคลุมมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ จัดตั้งทีมคลินิกหมอครอบครัว ปัจจุบันมีแล้วกว่า 600 ทีม ครอบคลุมประชากรกว่า 6 ล้านคน ทำให้เกิดบริการสุขภาพเชิงรุกมีประสิทธิผลและประหยัดงบประมาณได้มาก จากการศึกษาพบว่า หากสามารถดำเนินการคลินิกหมอครอบครัวได้ครอบคลุมทั้งประเทศจะสามารถประหยัดงบประมาณในการดูแลผู้สูงอายุกว่า 5 หมื่นล้านบาทต่อปี
สำหรับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่สูงขึ้นเกิดจากเทคโนโลยีการรักษาใหม่ๆ กระทรวงสาธารณสุข จัดให้มีกลไกการประเมินเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ให้มีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายรองรับการจัดบริการ ทั้งนี้ มั่นใจว่าประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสง่างาม ด้วยจุดแข็งการเป็นสังคมแห่งความกตัญญูรู้คุณ คนไทยไม่ทอดทิ้งผู้สูงอายุ ทุกคนให้ความสำคัญ “ผู้สูงวัย…เป็นหลักชัยของสังคม”