กรมพัฒน์ฯเตือนคนฉกบัตรปชช.
ข้อมูลบัตรฯ-จดทะเบียนตั้งนิติบุคคล
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตือนประชาชนระวังพวกขี้ฉ้อนำบัตรประจำตัวประชาชนและข้อมูลในบัตรฯ สวมรอยจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลโดยไม่รู้ตัว หรือนำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย หลังมีผู้ร้องเรียนว่าไม่เคยจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลแต่มีชื่อเป็นกรรมการของบริษัทจำกัด พร้อมย้ำ!!! บุคคลที่รับรองลายมือชื่อกรรมการผู้ขอจดทะเบียนต้องให้กรรมการผู้ขอจดทะเบียนฯ ลงลายมือชื่อต่อหน้าเท่านั้น เพื่อป้องกันการนำบัตรประจำตัวประชาชนและข้อมูลในบัตรฯ ของผู้อื่นมายื่นจดทะเบียนนิติบุคคล
นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “จากกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่าไม่เคยจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลแต่มีชื่อปรากฏเป็นกรรมการของบริษัทจำกัดเพื่อประกอบกิจการประเภทต่างๆ นั้น กรมฯ ขอเตือนประชาชนในการนำบัตรประจำตัวประชาชนและข้อมูลในบัตรฯ มอบให้แก่ผู้อื่นเพื่อนำไปใช้ในกิจธุระต่างๆ ให้มีความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากมอบอำนาจให้ผู้อื่นกระทำการแทนสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ควรที่จะทราบเหตุผลการนำบัตรฯ ไปใช้ให้ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นและได้รับความเดือดร้อนได้ในภายหลัง”
“ทั้งนี้ กรมฯ ได้กำชับนายทะเบียนที่พิจารณาการจดทะเบียนนิติบุคคลให้ตรวจสอบเอกสารการยื่นขอจดทะเบียนด้วยความรอบคอบ หากเกิดข้อสงสัยให้เชิญกรรมการผู้ขอจดทะเบียนฯ มายืนยันตัวตน”
อธิบดีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “พร้อมกันนี้ หากท่านใดสงสัยหรือกังวลว่าตนเองจะถูกหลอกลวงในการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล โดยมีกลุ่มบุคคลหรือนายหน้ามาขอบัตรประจำตัวประชาชน หรือข้อมูลบัตรฯ ไป หรือได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าวให้รีบติดต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกแห่งโดยด่วน และขอเตือน !!! ประชาชนให้ระวังผู้ไม่หวังดีลวงนำบัตรประจำตัวประชาชนและข้อมูลในบัตรฯ ไปใช้ในทางผิดกฎหมาย เนื่องจากกลุ่มบุคคลฯ ดังกล่าว มักจะใช้ข้ออ้างในการนำบัตรประจำตัวประชาชนและข้อมูลในบัตรฯ ไปเพื่อร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ หรือเพื่อการสาธารณกุศลอื่นๆ มาใช้เป็นเครื่องมือ”
“นอกจากนี้ ขอให้บุคคลที่รับรองลายมือชื่อกรรมการผู้ขอจดทะเบียน เช่น ทนายความ ผู้สอบบัญชี ผู้ทำบัญชี ฯลฯ ต้องให้กรรมการผู้ขอจดทะเบียนฯ ลงลายมือชื่อต่อหน้าเท่านั้น เพื่อป้องกันการนำบัตรประจำตัวประชาชนและข้อมูลในบัตรฯ ของผู้อื่นมายื่นจดทะเบียนนิติบุคคล ทั้งนี้ การลงลายมือชื่อรับรองโดยไม่ตรวจสอบหรือปฏิบัติให้ถูกต้อง อาจเป็นเหตุให้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตได้” อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย