“มาสเตอร์คูล” เจ้าแรกในไทย
เปิดนวัตกรรมพัดลมรุ่น “เย็นไล่ยุง”
“มาสเตอร์คูล” เปิดนวัตกรรมพัดลมไอเย็น ดับร้อนปี61 โชว์เทคโนโลยีใหม่ “เย็นไล่ยุง” เจ้าแรกตอบโจทย์คนไทย “รุ่น MIK-28EX” ผสานสุดยอดเทคโนโลยีดีไซน์โดนใจแรงลมสูงและเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ “ไล่ยุงไร้สารเคมี” เจ้าแรกในไทย มั่นใจเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย ทางเลือกเพิ่มความเย็นได้ทุกพื้นที่ ชี้ตลาดพัดลมไอเย็นยังโตต่อเนื่อง รับเศรษฐกิจไทยขาขึ้น ทุ่มงบ 30 ล้านทำตลาด ขยายการขายทุกช่องทาง เน้นออนไลน์ รวมเวบไซต์อีคอมเมิร์ซของบริษัทเองและระบบอีคอมเมิร์ซชั้นนำอย่างลาซาด้าและ ช็อปปี้(Shopee) พร้อมบุกตลาดต่างประเทศเพิ่ม นอกจากกลุ่มอาเซียนแล้วยังบุกซีกโลกใต้ มี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แอฟริกา อเมริกาใต้รวมเม็กซิโก ที่ช่วงครึ่งปีหลังเป็นฤดูร้อน ขณะนี้ได้ตัวแทนของออสเตรเลีย นิวซีแลนด์มาแล้ว ตั้งเป้ายอดขายปีนี้กว่า 100 ล้านบาท โต 25 % จากปี60 ดันสัดส่วนรายได้ตลาดประเทศเป็น 30% จาก20-25%
นายนพชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KOOL ผู้ผลิตและจำหน่ายพร้อมให้เช่า พัดลมไอน้ำ-ไอเย็นภายใต้แบรนด์ “มาสเตอร์คูล” เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวพัดลมไอเย็นรุ่นใหม่ “เย็นไล่ยุง” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พัดลมไอเย็น ตัวแรกของไทย ที่ผสานเทคโนโลยีความเย็นสบาย ป้องกันยุง ไร้สารเคมี โดยใช้คลื่นความถี่สูง อุลตร้าโซนิค ติดตั้งภายในเครื่องเดียวกัน เพื่อตอบสนองและเข้าถึงการใช้งานไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน ที่นับเป็นการพัฒนาและคิดค้น นวัตกรรมใหม่ๆ สู่ตลาดพัดลมไอเย็นภายใต้ แบรนด์ “MASTERKOOL”
สำหรับ “พัดลมไอเย็น รุ่น“เย็นไล่ยุง” บริษัทได้เปิดตัวเป็นรุ่นแรกในชื่อรุ่น MIK-28EX มีการเพิ่มระบบไล่ยุง ด้วยการนำคลื่นความถี่อุลตร้าโซนิคมาใช้ที่นับเป็นฟังก์ชั่นพิเศษของมาสเตอร์คูล โดยเปิดตัวพร้อมกับรุ่น MIK-14EX ซึ่งเป็นพัดลมไอเย็นตัวใหม่ ที่เปิดตัวในปีนี้เช่นกัน โดยทั้งสองรุ่นได้รับการออกแบบ และดีไซน์ใหม่ทั้งหมด มีการพัฒนานวัตกรรมใบพัดลมพิเศษ ที่สามารถให้กำลังแรงลมได้มากกว่าเดิม เหมาะสมกับการใช้งานในทุกพื้นที่ทั้งภายในอาคารและนอกอาคาร พร้อมกับการออกแบบระบบปุ่มควบคุมการใช้งานสำหรับการเปิด-ปิด ฟังก์ชั่นต่างๆที่ง่ายและสะดวกต่อผู้ใช้ นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในทุกเซกเมนต์ของตลาด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่อยู่อาศัย บ้านเดี่ยว คอนโดมีเนียม รีสอร์ต โรงแรม เป็นต้น
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์พัดลมไอเย็น รุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นในครั้งนี้ เกิดจากงานวิจัยและพัฒนา โดยนำผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคมาเป็นองค์ประกอบในการออกแบบ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด โดยเฉพาะฟังก์ชั่นการไล่ยุง ถือเป็นการพัฒนานำเอาเทคโนโลยีมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากความเย็นสบายที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์พัดลมไอเย็น เพราะด้วยสภาพแวดล้อมของประเทศไทย ที่มีปัญหาเรื่องยุงมาอย่างยาวนาน ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทำให้บริษัท เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาและ นำเอาเทคโนโลยีที่ปราศจากสารเคมี มาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น
“การออกผลิตภัณฑ์พัดลมไอเย็น ของมาสเตอร์คูล โดยเฉพาะรุ่นเย็นไล่ยุง ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่บริษัท นำออกสู่ตลาดเพื่อตอบสนอง ทั้งในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป และ กลุ่มนิช มาร์เก็ต(Niche Market) ที่ต้องการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถสะท้อนความเป็นตัวตน ทั้งในเรื่องการออกแบบ ความทันสมัยและมีประสิทธิภาพ สามารถใช้งานได้ทุกโอกาส และทุกสถานที่ ได้อย่างลงตัว มั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดีในทุกกลุ่มเป้าหมา พร้อมกันนี้ทางมาสเตอร์คูล ได้ออกภาพยนต์โฆษณาตัวแรก ชุด “มาสเตอร์คูล เย็นไล่ยุง” ด้วยเพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าถึง และรับรู้ในเทคโนโลยีความเย็นไล่ยุง ตอกย้ำการเป็นผู้นำนวัตกรรมพัดลมไอเย็นเจ้าแรกของไทย”
แม้ในอุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็น โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดพัดลมไอเย็น ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้ามาทำตลาด และแข่งขันในการออกผลิตภัณฑ์มาเป็นจำนวนมาก ทั้งในรูปแบบการผลิตเอง และนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน แต่ในส่วนของผลิตภัณฑ์ แบรนด์ มาสเตอร์คูล ยังมั่นใจในนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์ให้ผู้บริโภคคนไทย ด้วยมาตรฐานและคุณภาพความปลอดภัย รวมถึงการประหยัดพลังงาน การบริการ ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกกลุ่มในตลาด ด้วยกลุ่มสินค้าที่มีความหลากหลาย ทั้งในด้านที่อยู่อาศัย ร้านค้า โรงแรม รีสอร์ต รวมถึงการพัฒนาระบบความเย็นเพื่อใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล เป็นต้น จนเป็นที่ยอมรับจากตลาดทั้งในและต่างประเทศ
“สินค้าของเรามีสำหรับทุกกลุ่มตั้งแต่ขนาดเล็ก กลางและใหญ่ โดยในปี 2561 นี้มีพัดลมไอเย็นออกใหม่ 3 รุ่น สำหรับตลาดระดับเล็ก 3500 กลาง 7900 ขนาดใหญ่ 12000 บาท”
สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2561 ถือเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญของบริษัท เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำพัดลมไอเย็นเพื่อคนไทย ซึ่งไม่เพียงแต่ในด้านสินค้า แต่คือประสบการณ์ทั้งหมดที่ได้รับจาก MASTERKOOL โดยในแง่การตลาดบริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 25 % เป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปี 2560 โดยวางงบประมาณด้านการทำตลาดเป็นมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท มีแผนการขยายช่องทางการขายสินค้าในทุกช่องทางจำหน่าย ทั้งจากดีลเลอร์ และโมเดิร์นเทรด พร้อมการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ผ่านช่องทางการขายบนระบบอีคอมเมิร์ช(E-commerce) ชั้นนำของไทย รวมลาซาด้าและ ช็อปปี้(Shopee) และผ่านช่องทางเว็บไซต์ shop.masterkool.com ซึ่งเป็นช่องทางที่บริษัทได้ทำการตลาดเพื่อรองรับการเข้าถึงของลูกค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศ
“ เศรษฐกิจของไทยในปี 2561 เชื่อมั่นว่าจะเติบโตจากปีก่อน เป็นผลจากการขยายตัวด้านการลงทุนของภาครัฐและเอกชน รวมถึงภาคการส่งออกปีนี้ที่มีการขยายตัวที่ดีขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อโดยรวมของประเทศจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปี 2560 ซึ่งจะส่งผลให้ยอดจำหน่ายของบริษัทเติบโตไปด้วย”
นายนพชัยยังกล่าวด้วยว่า “นอกจากนี้ ยังจะบุกทำตลาดต่างประเทศเพิ่ม ซึ่งนอกจากประเทศในกลุ่มอาเซียนแล้ว ยังจะบุกซีกโลกใต้เพิ่ม มีออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แอฟริกา อเมริกาใต้รวมเม็กซิโก เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังของประเทศเหล่านี้จะเป็นฤดูร้อน จึงคิดว่าจะบุกได้ ซึ่งขณะนี้ได้ตัวแทนของออสเตรเลีย นิวซีแลนด์มาแล้ว และจากการเปิดรุ่นเย็นไล่ยุง คาดว่าจะทำให้สัดส่วนยอดขายในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วย จากปัจจุบันมีสัดส่วนตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 20-25% แต่ปีนี้คาดว่าส่วนถึง 30%”