ไทยประกันชีวิตส่งMusic Marketing
“The Last Call” คิดวางแผนเพื่อคนที่รัก
ไทยประกันชีวิตต่อยอด Music Marketing สร้างปรากฏการณ์ใหม่ Interactive Music Video “The Last Call” มิวสิควิดีโอผสาน DRTV เรื่องแรกในธุรกิจประกันชีวิต ขยายตลาดแบบประกันเติมเงินยามป่วย สร้างอารมณ์ร่วม กระตุกให้ผู้ชมหยุดคิด เลือกวางแผนชีวิตเพื่อคนที่รักด้วยตนเอง
นายไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไทยประกันชีวิตนับเป็นผู้นำด้านการสร้างแบรนด์ โดยพัฒนาการสื่อสารแบรนด์ผ่านการใช้สื่อหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการรับสื่อของผู้บริโภค ตั้งแต่ปี 2559 บริษัทฯ ได้จับมือพันธมิตรธุรกิจ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เพิ่มโอกาสในการสร้างแบรนด์และขยายตลาดผ่านดนตรี หรือ Music Marketing เพื่อให้แบรนด์ไทยประกันชีวิตเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง โดยเฉพาะวัยรุ่นและวัยทำงาน ผ่านการสร้างสรรค์บทเพลงพิเศษ 6 บทเพลง ภายใต้โปรเจ็กต์ “เพลงแห่งโอกาส” โดยใช้แนวคิดเพราะโอกาสมีอยู่ในทุกช่วงชีวิต หรือ Life is an Opportunity ที่ศิลปินของแกรมมี่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์โฆษณาของบริษัทฯ ซึ่งเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่สร้างกระแส Talk of the Town และยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้ชม รวมถึงสนับสนุนมิวสิควีดิโอของ 6 ศิลปินคุณภาพ ในลักษณะการทำ Branded Content ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มียอดวิวในยูทูปถึง 100 ล้านวิว
ในปี 2561 บริษัทฯ ต่อยอด Music Marketing โดยนำบทเพลง “ยิ่งไม่รู้ ยิ่งต้องทำ” ซึ่งเป็นหนึ่งในบทเพลงจากโปรเจกต์ “เพลงแห่งโอกาส” และได้รับความนิยมอย่างสูงด้วยยอดวิวบน YouTube กว่า 13 ล้านวิว มาถ่ายทอดในลักษณะมิวสิควิดีโอเพลงที่สื่อสารกับผู้ชมได้ หรือ Interactive Music Video เรื่อง “The Last Call” โดยนักร้องเสียงคุณภาพ ลุลา – กันยารัตน์ ติยะพรไชย นับเป็นปรากฏการณ์มิวสิควิดีโอรูปแบบใหม่ ที่ผู้ชมสามารถเลือกตอนจบได้ด้วยตัวเอง และครั้งแรกของธุรกิจประกันชีวิตในการนำเสนอขายในลักษณะ DRTV (Direct Response TV) รูปแบบใหม่ โดยเผยแพร่ผ่าน YouTube Thailife Channel และ Social Media ของบริษัทฯ ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคมเป็นต้นไป
“The Last Call” นำเสนอภายใต้แนวคิด “ยิ่งไม่รู้ ยิ่งต้องทำ เพราะชีวิตจริง แก้ไขอดีตไม่ได้” โดยถ่ายทอดผ่านเรื่องราวผ่านตัวละคร 2 คน คือ “ใบหม่อน” และ “แทนไท” ที่ทุ่มเทชีวิตให้กับการทำงาน เพื่อคนที่พวกเขารัก แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทำให้ความรักและความฝันพังทลาย จึงเกิดคำถามว่า ถ้าเป็นผู้ชม ทุกคนจะทำให้เรื่องนี้จบลงอย่างไร เพื่อสร้างความรู้สึกร่วม (Emotional) และกระตุ้นให้ผู้ชมเกิดการฉุกคิดและมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน อันนำไปสู่การตระหนักถึงการวางแผนชีวิต หรือเกิด Insurance Moment ขณะเดียวกันยังสร้างการจดจำแบรนด์ (Brand Awareness) และประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ (Brand Experience) อีกด้วย
Interactive Music Video เรื่องนี้ ผสานการนำเสนอสิทธิประโยชน์ของแบบประกัน “ไทยประกันชีวิต เติมเงินยามป่วย” ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนวัยทำงาน ทั้งอาชีพอิสระและพนักงานออฟฟิศ เติมเงินชดเชยรายได้ เมื่อนอนโรงพยาบาล ไม่ว่าจากเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ สูงสุดถึงวันละ 3,000 บาท นานสูงสุด 365 วัน เติมเงินกรณีผ่าตัดใหญ่สูงสุดถึงครั้งละ 60,000 บาท พร้อมเติมเงินปลอบขวัญเมื่อออกจากโรงพยาบาลสูงสุดครั้งละ 3,000 บาท และคุ้มครองชีวิตสูงสุด 600,000 บาท กรณีไม่เคลมสินไหมทดแทนทุกกรณีตลอดระยะเวลา 5 ปี รับเบี้ยประกันภัยปีสุดท้ายคืน 100%
“The Last Call นำเสนอจากสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับหลายครอบครัว ที่หัวหน้าครอบครัวมักทุ่มเทเพื่อคนรัก เพื่อความฝัน จนบางครั้งอาจลืมนึกถึงความจริงของชีวิต ว่าชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน ทั้งอุบัติเหตุ การเจ็บป่วย หรือสิ่งไม่คาดฝัน หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับเราในอนาคต สิ่งที่ทุ่มเทไปทั้งหมดอาจสูญเปล่า และสุดท้ายคนที่ต้องลำบาก ก็คือคนที่เรารักนั่นเอง ดังนั้น Interactive Music Video เรื่องนี้ จะกระตุ้นให้ทุกคนได้ตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตและความรัก ด้วยการวางแผนทางการเงินและการวางแผนชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง” นายไชยกล่าว
ติดตามชม Interactive Music Video เรื่อง “The Last Call” ทาง Youtube Thailife Channel และ Social Media ของบริษัทฯ ได้แก่ Facebook Fanpage : ไทยประกันชีวิต, Line Official Account : Thai Life Insurance, Twitter ไทยประกันชีวิต, Instagram ไทยประกันชีวิต