SME Development Bank บันทึกประวัติศาสตร์ คว้า 2 รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2561 ในสาขารางวัลพัฒนาองค์กรดีเด่น ประเภทพัฒนาองค์กรดีเด่นในภาพรวม และรางวัลความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ด้านความร่วมมือในเชิงยุทธศาสตร์ ประเภทเชิดชูเกียรติ จากผลงานยกระดับการทำงานโดดเด่นครบวงจร มุ่งภารกิจสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) มอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำ ปี 2561 โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank หรือ ธพว.) ได้รับรางวัลพัฒนาองค์กรดีเด่น ประเภทพัฒนาองค์กรดีเด่นในภาพรวม และรางวัลความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ด้านความร่วมมือในเชิงยุทธศาสตร์ (Collaboration) ประเภทเชิดชูเกียรติ จากความร่วมมือใน “โครงการสร้างบ้าน สร้างอาชีพ” กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โดยได้รับเกียรติจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธพว. เปิดเผยว่า นับเป็นครั้งแรกที่ธนาคารแห่งนี้ได้รับรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น โดยในส่วนของรางวัลพัฒนาองค์กรดีเด่น ประเภทพัฒนาองค์กรดีเด่นในภาพรวม เนื่องจากธนาคาร ยกระดับการทำงานดีขึ้นทุกด้านอย่างชัดเจนต่อเนื่อง ทั้งด้านการเงิน นับตั้งแต่ปี 2558 – 2560 มียอดปล่อยสินเชื่อรวม 98,757 ล้านบาท และยอดเบิกจ่ายสินเชื่อใหม่วงเงินไม่เกิน 15 ล้านบาท รวม 93,995 ล้านบาท ซึ่งในปี 2560 สามารถปล่อยสินเชื่อทั้งหมดได้จำนวนทั้งสิ้น 43,269 ล้านบาท อีกทั้ง ลดหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เป็นไปตามเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2560 เหลือร้อยละ 16.83 โดยเป็นหนี้เสียของสินเชื่อใหม่ ตั้งแต่ปี 2558 – 2560 เพียงร้อยละ 3.32 , 1.32 และ 0.21 ตามลำดับ ดังนั้น เมื่อต้นปีที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) จึงเห็นชอบให้ ธพว.เป็นหน่วยงานแรกที่ออกจากแผนการแก้ไขปัญหาองค์กรหรือแผนฟื้นฟู
อีกทั้ง มีการบริหารงานโปร่งใส ดำเนินโครงการ “ธนาคารคุณธรรม” โดยได้รับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำปี 2560 คะแนนร้อยละ 92.07 ซึ่งอยู่ลำดับที่ 10 จากรัฐวิสาหกิจ 54 แห่งที่ถูกประเมิน โดยคะแนนดังกล่าวถือเป็นลำดับสูงสุดของเกณฑ์การให้คะแนน รวมถึง บริษัท ฟิทช์เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศจัดอันดับเครดิต ธพว. อยู่ที่ “AAA” ถือเป็นอันดับเครดิตสูงสุดภายในประเทศ ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559-2561 สะท้อนความมีเสถียรภาพ และความสำคัญเชิงนโยบายของรัฐบาล นอกจากนั้น อันดับเครดิตดังกล่าวยังแสดงถึงความเป็นไปได้สูงที่ ธพว.จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
นอกจากนั้น ยกระดับการทำงานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ตามนโยบาย Thailand 4.0 โดยออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ “รถม้าเติมทุน ส่งเสริม SMEs ไทย ฉับไว ไปถึงถิ่น” ลงพื้นที่ให้บริการแก่ SMEs ทั่วถึงทั้งประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องขยายสาขาเพิ่ม ซึ่งไม่เหมาะกับยุคปัจจุบัน ควบคู่กับใช้ระบบแพลตฟอร์ม SME D Bank ซึ่งเป็นมิติใหม่บริการยุคดิจิทัล ผ่านแอปพลิเคชันตอบทุกความต้องการเอสเอ็มอี ไม่ว่าจะยื่นขอสินเชื่อออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา เครื่องมือดิจิทัล (Tools Box) จากกว่า 50 แอปพลิเคชัน และ e-Library ความรู้ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันธุรกิจ และสะสมแต้มในการใช้บริการ
และสิ่งสำคัญ ธพว. มุ่งมั่นตอบสนองนโยบายรัฐบาลที่มอบหมายให้เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เพื่อการพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อยอย่างแท้จริง ซึ่งนโยบายดังกล่าว ได้ปลูกฝั่งจิตสำนึกการทำงานให้แก่บุคลากรขององค์กรแห่งนี้ เดินหน้าเติมทุนควบคู่พัฒนาความรู้ เพื่อให้เอสเอ็มอีไทยสามารถเติบโตอยู่รอดอย่างยั่งยืน เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ขณะที่รางวัลความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ด้านความร่วมมือในเชิงยุทธศาสตร์ ประเภทเชิดชูเกียรติ นับเป็นการบูรณาการความร่วมมือของ 3 หน่วยงานที่เกิดประสิทธิภาพสูง สามารถสนับสนุนให้ประชาชนมีบ้าน และมีอาชีพ โดยไม่ต้องใช้บ้านมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ขอแค่สมอง กับสองมือ จะได้รับเงินทุนไปสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ นับเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ และสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทยจากฐานราก
“รางวัลที่ได้รับต้องขอขอบคุณกระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม ที่มอบนโยบายให้ ธพว. สนับสนุนเอสเอ็มอีไทย และที่สำคัญ ต้องขอบคุณผู้บริหาร คณะกรรมการธนาคาร ที่ปรึกษา เครือข่ายพันธมิตร ผู้เกี่ยวข้อง และพนักงานทุกคน ที่ร่วมแรงร่วมใจ ยกระดับองค์กรแห่งนี้ จนกล่าวได้ว่า ปัจจุบัน ธพว. ก้าวเดินได้ถูกทิศทาง ในฐานะหนึ่งในกลไกสำคัญของรัฐบาลในการส่งเสริมและสนับสนุนเอสเอ็มอีไทย” นายมงคล กล่าว