สหกรณ์ลุยหนุนปลูกข้าวโพดหลังนา
ลดพื้นที่ปลูกข้าว-ดันราคาให้สูงขึ้น
กรมส่งเสริมสหกรณ์ เดินเครื่องส่งเสริมสมาชิกสหกรณ์ปรับกลยุทธ์ส่งเสริมเกษตรกรมีรายได้เพิ่มจากการเกษตร หนุนปลูกข้าวโพดหลังนา เพื่อลดพื้นที่ปลูกข้าว-ดันราคาให้สูงขึ้น ตลอดจนเพิ่มผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้เพียงพอกับความต้องการใช้ภายในประเทศ นำร่อง 2 จังหวัด รวม 5,800 ไร่ คือ จังหวัดพิษณุโลก 2,800 ไร่ และจังหวัดอุตรดิตถ์ 3,000 ไร่ สหกรณ์ดูแลตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เริ่มปีฤดูกาลผลิต 2560/61 ชี้ปัจจุบันไทยผลิตข้าวโพดได้เพียง 5 ล้านตันต่อปี แต่มีความต้องการ 8 ล้านตันต่อปี
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายสนับสนุนให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพื้นที่การปลูกข้าวเป็นการปลูกพืชชนิดอื่นที่ตลาดต้องการ เพื่อสร้างโอกาสให้เกษตรกรสมาชิกมีรายได้จากการประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่สูงขึ้น ซึ่งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นพืชทางเลือกที่ใช้น้ำน้อยและแนวโน้มของตลาดมีความต้องการสูง โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ขานรับนโยบายและเร่งดำเนินการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนา ปี 2560/61 ในพื้นที่นำร่อง 2 จังหวัด รวม 5,800 ไร่ คือ จังหวัดพิษณุโลก 2,800 ไร่ และจังหวัดอุตรดิตถ์ 3,000 ไร่ โดยให้สหกรณ์เป็นตัวกลางในการบริหารจัดการตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่ส่งเสริมการผลิต การดูแลพื้นที่เพาะปลูก การเก็บเกี่ยว การรวบรวมผลผลิต ตลอดจนจัดหาตลาดมารองรับ ซึ่งปีฤดูกาลผลิต 2560/61 เป็นปีแรกที่เริ่มดำเนินการ เน้นพื้นที่เขตชลประทาน
ในจังหวัดอุตรดิตถ์มีพื้นที่เป้าหมายปรับเปลี่ยนข้าวโพดหลังนา ใน 4 อำเภอ 18 สหกรณ์ พื้นที่รวม 13,280 ไร่ โดยสหกรณ์เป็นตัวกลางในการบริหารจัดการตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่ส่งเสริมการผลิต การดูแลพื้นที่เพาะปลูก การเก็บเกี่ยว การรวบรวมผลผลิต ตลอดจนจัดหาตลาดมารองรับ ซึ่งปีฤดูกาลผลิต 2560/61 เป็นปีแรกที่เริ่มดำเนินการ เน้นพื้นที่เขตชลประทาน
ส่วนจังหวัดพิษณุโลก มีเป้าหมาย การเพาะปลูก รวม 2,800 ไร่ ในพื้นที่สมาชิกของสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด จังหวัดพิษณุโลก เริ่มดำเนินการเพาะปลูกในเดือนสิงหาคม–กันยายน 2561 โดยแนวทางการดำเนินงาน กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้เตรียมการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ เพื่อสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำให้แก่สหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการฯ นำไปให้สมาชิกกู้ยืมเพื่อเป็นทุนเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เฉลี่ยรายละ 3,000 บาท/ไร่ โดยได้เน้นย้ำให้เกษตรกรสมาชิกควบคุมดูแลคุณภาพผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรสามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่สูงขึ้น อีกด้วย
นายพิเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทยพืชหนึ่ง ผลผลิตร้อยละ 95 ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์เพื่อการบริโภคของประชากรภายในประเทศ และการส่งออก คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 8 หมื่นล้านบาทต่อปี ปัจจุบันการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของไทยยังผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการ กล่าวคือ ผลิตได้เพียงปีละ 5 ล้านตัน ในขณะที่ความต้องการอยู่ที่ 8 ล้านตันต่อปี และมีแนวโน้มขยายตัวตามปริมาณการเลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี 2559/60 คาดว่าความต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีประมาณ 7.41ล้านตัน
นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดและสหกรณ์ ชี้แจงทำความเข้าใจกับสมาชิกสหกรณ์ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ เพื่อส่งเสริมการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่เป้าหมาย การสร้างความมั่นใจให้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับเรื่องของตลาดและราคารับซื้อผลผลิตที่เป็นธรรม การสนับสนุนองค์ความรู้ด้านการผลิตที่เน้นหลักวิชาการ ซึ่งสหกรณ์จะเข้ามาดูแลพื้นที่แปลงเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อบริหารจัดการในทุกกิจกรรมการผลิตร่วมกับเกษตรกรสมาชิก เพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินโครงการฯ
อย่างไรก็ตาม อยากเตือนไปยังเกษตรกร ต้องระมัดระวังเรื่องคุณภาพ การใช้เครื่องจักรเก็บเกี่ยว ควบคุมคุณภาพเมล็ดในเรื่องของความชื้นสูง เพราะจะทำให้แตกหักง่าย และระวังการเกิดอะฟลาท็อกซินซึ่งมีผลต่อเสถียรภาพด้านราคาได้
“โครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้งหลังนา ปี 2560/61 มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้เพียงพอกับความต้องการใช้ภายในประเทศ และกระจายผลผลิตให้ออกสู่ตลาดสม่ำเสมอไม่กระจุกตัว จากสัดส่วน 72 : 23 : 5 : เป็น 30 : 20 : 50 ตลอดจนเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดแทนการปลูกข้าวที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่า ช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมีรายได้ที่มั่นคง ยั่งยืน จาการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หมุนเวียนในระบบปลูกข้าว” นายพิเชษฐ์ กล่าว
ด้านนายสมศักดิ์ แสนศิริ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า สหกรณ์ฯได้จัดประชุมชี้แจงโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้งหลังนา ปี 2560/61 เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูการทำนา เพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้เพียงพอกับความต้องการของประเทศ ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้มีรายได้ที่มั่นคง จากการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สลับกับการทำนา โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก และสมาชิกสหกรณ์ 200 คน ณ. สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก
โดยสหกรณ์จะทำการคัดเลือกเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ตรวจสอบคุณสมบัติและข้อมูลสภาพพื้นที่การเพาะปลูกที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงภัยจากปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ทำการเกษตร การจัดอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรสมาชิก เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ การคัดเลือกพันธุ์เพาะปลูกให้เหมาะกับสภาพพื้นที่และรอบการผลิต การตรวจติดตามแปลง การตรวจติดตามคุณภาพ และการบริหารจัดการตลาด โดยสหกรณ์เป็นจุดรวบรวมรับซื้อผลผลิตจากสมาชิก โดยในเบื้องต้น สหกรณ์ได้เตรียมแผนที่จะสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้แก่เกษตรกรใช้เป็นทุนในการเพาะปลูกข้าวโพดอีกด้วย