ไอโคร่าชวนรับมือเศรษฐกิจดิจิทัล
เปิด ‘คริปโตแอสเซท เรโวลูชั่น2’
ปัจจุบันเรื่องของสกุลเงินดิจิทัล หรือ “Cryptocurrency” (คริปโต เคอเรนซี) รวมถึงกระแสการระดมทุนด้วยการเสนอขายเหรียญดิจิทัล หรือ ไอซีโอ กำลังแรงในโลกการเงิน และคนไทยก็หันมาให้ความสำคัญสนใจเริ่มลงทุนมากขึ้น หากแต่ว่าคนไทยยังมีความรู้ในเรื่องนี้ยังไม่มากพอ บริษัท ICORA บริษัทที่ปรึกษาให้กับธุรกิจที่ต้องการระดมทุนด้วยไอซีโอ ซึ่งประกอบด้วยบริการหลัก คือ ICORA ADVISORY และ ICO ACADEMY พร้อมทั้งกำลังดำเนินการขอใบอนุญาต ICO PORTAL กับ ก.ล.ต. ในขณะนี้ ได้เปิดหลักสูตร “Cryptoasset Revolution รุ่นที่ 2” ขึ้น คาดหวังภายใน 3 ปี ไทยจะมีศักยภาพพร้อมเป็นศูนย์กลางของตลาดสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 500% ติดอันดับ 1 ใน 5 ตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่น่าสนใจในเอเชียอย่างแน่นอน
ดร.การดี เลียวไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท ไอโคร่า จำกัด เปิดเผยว่า ICORA เป็นบริษัทที่ปรึกษาให้กับธุรกิจที่ต้องการระดมทุนด้วยสกุลเงินดิจิทัล หรือไอซีโอ (ICO – Initial Coin Offering) ภายใต้ชื่อ ICORA Advisory โดยทางบริษัทมองเห็นถึงโอกาสที่จะช่วยให้สตาร์ทอัพ และเอสเอ็มอี รวมถึงบริษัทขนาดใหญ่เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้นโดยไม่สูญเสียความเป็นเจ้าของในธุรกิจและมีความรวดเร็วในการระดมทุน เมื่อเทียบการระดมทุนด้วยวิธีอื่นๆ โดยปัจจุบันทาง ICORA มีลูกค้าในพอร์ทประมาณ 10 ราย ทั้งต่างประเทศและในประเทศ
อีกทั้งบริษัท ICORA ยังดำเนินธุรกิจด้าน Academy ภายใต้ชื่อ ICORA Academy เพื่อเป็นศูนย์รวมการเรียนรู้เกี่ยวกับ Cryptoasset แบบครบวงจร ตอนนี้ทาง ICORA ACADEMY มีหลักสูตร Cryptoasset Revolution ซึ่งเปิดเป็นรุ่นที่ 2 ในเดือนมกราคม 2562 นี้ โดยรุ่นที่ 1 มีเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริหารระดับสูงทางภาพรัฐและนักธุรกิจระดับแนวหน้าของไทย และจะมีหลักสูตรอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับนักธุรกิจไทยสำหรับตลาด Cryptoasset ที่จะเติบโตในปีหน้า
ทั้งนี้ ICORA คาดการณ์ว่าในปีหน้าจะทำให้ตลาดของคริปโตแอสเซทของไทยเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยจากข้อมูลตลาดโลกได้ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนตลาดของไทยมากขึ้น เพราะไทยจะเป็นประเทศแรกที่อนุญาตให้มี ICO PORTAL ซึ่งต่อไปก็จะมีบริษัทที่เข้าระบบ ICO อย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้น มีคุณภาพมากเกิดขึ้นอีกมากมาย บริษัทที่อยู่ในรูปแบบธุรกิจปกติมีพื้นฐานทางธุรกิจที่จับต้องได้ก็จะเริ่มเข้ามาระดบทุน ICO กัน กล่าวคือ ธุรกิจที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี และ Fintech ก็ยังคงอยู่และเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ส่วนธุรกิจที่จะเข้ามาระดมทุนผ่าน ICO ในอนาคตที่จะมีมากขึ้นจะเป็นกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว และอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงธุรกิจ SME หรือธุรกิจรายย่อยก็จะเข้ามามีส่วนร่วมในการระดมทุนตลาด ICO เพราะมองเห็นโอกาสที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้รวดเร็วขึ้น ICO เกิดขึ้นจริงในไทย ทำให้รากฐานเศรษฐกิจไทยมีการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด จากปัจจุบันที่คนไทยซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลของต่างประเทศ มีเงินหมุนเวียนอยู่ประมาณ 100 ล้านบาท ต่อวัน ส่วนประเทศ เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ถือเป็นตลาดที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในเอเชีย โดยไทยอยู่ในอันดับที่ 10 ซึ่งคาดว่าภายใน 3 ปี ไทยจะสามารถขึ้นมาติด 1 ใน 5 ของตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่น่าสนใจในเอเชียได้ โดยมีการเติบโตกว่า 500 % อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ICORA มองว่า แนวโน้มในการลงทุนใน ICO จะปรับจากรูปแบบ Utility Token มาสู่ Security Token Offering (STO) กันมากขึ้น ซึ่งเป็นวิธีลงทุนที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้มากขึ้น โดยมีการแบ่งผลกำไรจากผลประกอบการจริง สามารถตรวจสอบได้
แต่อย่างไรก็ตามคนไทยยังมีความรู้ในเรื่องนี้น้อยมากมีบริษัทในรูปแบบสแกมเมอร์ หรือแก๊งลวงเงิน ออกมามากมาย ICORA ได้มองเห็นถึงปัญหาในเรื่องนี้จึงได้เปิดหลักสูตร “Cryptoasset Revolution รุ่นที่ 2” ขึ้น ซึ่งจากที่ได้เปิดรุ่นแรกไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี มีนักธุรกิจและนักลงทุนหลายคนสนใจในการลงทุนตลาด Cryptoasset มากขึ้น ซึ่งเป็นความรู้จำสำหรับประชาชนและภาครัฐที่ต้องเข้าใจแก่นที่แท้จริง เพื่อเตรียมความพร้อมในการพาเศรษฐกิจของไทยก้าวสู่ระบบเศรษฐกิจโลกในรูปแบบดิจิทัลนั่นเอง
คุณนิลทิตา เลิศเรืองศุภกุล กรรมการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ไอโคร่า จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาราคาดิจิทัล แอสเซทลดลงอย่างฮวบฮาบ ผลจากความไม่ชัดเจนเรื่องกฎระเบียบ การมีข้อจำกัดในการลงทุน แต่เวลานี้ผู้ดูแลกฎระเบียบ อย่าง ธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังมีการปรับตัวมากขึ้น ผลจากความนิยมด้านดิจิทัล แอสเซทเกิดขึ้นทั่วโลก โดยเทรนด์โลกนั้นภายในปี 2020 หากธุรกิจไม่มีการปรับตัว ไม่เรียนรู้รับเทคโนโลยีมาใช้ จะอยู่รอดยาก โดยคาดว่า 72% ของธุรกิจจะหายไป
“ผู้บริหารหรือ CEO ถ้าไม่ปรับตัว จะวิ่งไม่ทันและจะไม่สามารถบอกได้ว่า เป็นCEO ของอนาคต”
สำหรับหลักสูตร “Cryptoasset Revolution รุ่นที่ 2” มีเนื้อหาครอบคลุม เจาะลึกในเรื่องของ Crypto Economy ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของระบบเศรษฐกิจแบบใหม่ของโลก โดยหลักสูตรมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและต่างประเทศมาถ่ายทอดประสบการณ์เชิงลึกด้านการลงทุน การระดมทุนในระบบเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเน้นให้ความรู้แบบองค์รวมให้ผู้เรียนได้เข้าใจโอกาสของเทคโนโลยีบล็อคเชน Cryptocurrency และ ICO อย่างถ่องแท้ ผ่านการทำกิจกรรมเสมือนจริงที่จะให้ผู้เรียนได้รู้จักการวางแผนจริง เพื่อเข้าใจในระบบไม่ใช่แค่รู้แต่ทฤษฏีเพียงเท่านั้น
พิเศษสำหรับรุ่น 2 นี้ ที่จะได้สนุกกับการเรียนรู้จริงทดลองลงทุนจริงจาก Coin ในการแลกของหรือการประมูลซื้อของ โดยเหรียญที่ออกโดย ICORA รวมถึงมองเทรนด์โอกาสและรู้จักวิธีรับมือกับวิกฤติต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
“การเรียนจะเริ่มตั้งแต่ให้ความรู้พื้นฐาน ไปจนถึงการนำไปใช้ทำธุรกิจได้ มีการออกแบบ ICO เวิร์คช้อป การเปิดwallet เปิดการลงทุน มีคอมเมนเทอเตอร์ กูรูผู้สอน การซื้อขายทำอย่างไร และอื่น ๆ มาเรียนแล้วจะได้ความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้น ได้เพื่อนใหม่ ๆ และมีการแบ่งปันข้อมูลกัน” ดร.การดีกล่าวทิ้งท้าย
โดย “Cryptoasset Revolution รุ่นที่ 2” เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 พฤศจิกายน 2561 ทาง www.cryptoassetrev.com/register/ เปิดเรียนวันที่ 15 มกราคม 2562 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 081-754-1089 และ 063-232-6416