เมืองไทยประกันชีวิตคัดผลิตภัณฑ์เด่น
ร่วม “Money Expo Chiang Mai2018”
เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)นำผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันชีวิตเข้าร่วมงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 13 (Money ExpoChiang Mai 2018) ระหว่างวันที่ 9–11 พฤศจิกายน 2561 ณ เซ็นทรัลพลาซาเชียงใหม่ แอร์พอร์ต จังหวัดเชียงใหม่ มุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับการร่วมมหกรรมการเงินในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้คัดสรรผลิตภัณฑ์ พร้อมด้วยกิจกรรมต่างๆ มากมาย ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้ามานำเสนอให้เหมาะสม โดยมีผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ ได้แก่
“โครงการเมืองไทย ซุปเปอร์ เซฟวิ่ง 14/7” จ่ายเบี้ยสบาย โดยจ่ายเบี้ย 7 ปี ระหว่างสัญญาก็มีเงินจ่ายคืนทุกปี สูงสุดถึงปีละ 5%(1) และรับเงินครบสัญญาเมื่อสิ้นปีกรมธรรม์ที่ 14 อีก 135%(1) รวมผลประโยชน์ตลอดสัญญา 186%(1) พร้อมรับความคุ้มครองชีวิต 145%(1) ตลอดสัญญา และหากเกิดเหตุไม่คาดฝันต้องตกเป็นบุคคลทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร บริษัทฯ จะช่วยแบ่งเบาภาระโดยเป็นผู้ชำระเบี้ยประกันภัยให้จนครบ 7 ปี(2) ทำได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน – 70 ปี
โครงการเมืองไทย ซุปเปอร์ เซฟเวอร์ 25/16 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจ่ายเบี้ยสบายๆ ยาวถึง 16 ปี แต่ได้รับเงินจ่ายคืนทุกปี และสามารถนำเบี้ยประกันภัยที่ชำระไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้(3) แต่หากตกเป็นบุคคลทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรก็ได้รับสิทธิ์ยกเว้นชำระเบี้ยประกันภัย
เมืองไทย สมาร์ท โพรเทคชั่น 99/20 มีจุดเด่นที่ชำระเบี้ยประกันภัยเพียง 20 ปี แต่ให้ความคุ้มครองชีวิตระยะยาวจนครบอายุ 99 ปี พร้อมเบี้ยประกันภัยที่ชำระยังสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้(3)
โครงการ เมืองไทย รับทรัพย์ตลอดชีพ 90/7 มีจุดเด่นที่ชำระเบี้ยประกันภัยเพียง 7 ปี แต่ได้รับเงินจ่ายคืนตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 2 ต่อเนื่องตลอดอายุสัญญา
เมืองไทย รีไทร์นเมนท์ พลัส 60 มีเงินจ่ายคืนก่อนเกษียณ 1%(1) ทุก 3 ปีกรมธรรม์ และมีผลประโยชน์รวมตลอดสัญญาสูงสุดถึง 937% (1) พร้อมรับความคุ้มครองนานถึงครบอายุ 90 ปีและสูงสุดถึง 400% (1) เมื่อถึงวัยเกษียณเมื่อครบอายุ 60 ปี รับเงินจ่ายคืนสูงสุด ปีละ 40%(1)
โครงการเมืองไทย รีเทิร์น รีไทร์ เป็นแบบประกันที่ให้คุณรีไทร์อย่างสบายใจรับเงินบำนาญปีละ 20%(1) ตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่ครบอายุ 60 – 85 ปี รวมสูงสุด 520%(1)พร้อมเบี้ยประกันภัยที่ชำระยังสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 300,000บาท(4)
สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ เป็นสัญญาเพิ่มเติมที่ให้ความคุ้มครองทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก(5) โดยเลือกรับค่ารักษาพยาบาล ตั้งแต่ 20 – 100 ล้านบาท ต่อปี และยังให้ความคุ้มครองหลากหลายด้านสุขภาพ(6) เช่น การรักษาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง (Targeted Therapy) ค่าตรวจสุขภาพประจำปี ค่าฉีดวัคซีน ค่ารักษาทางทันตกรรม ค่ารักษาทางสายตา การคลอดบุตร รวมถึงแพทย์ทางเลือก เป็นต้น
นายสาระ กล่าวอีกว่า ภายในงานบริษัทฯ ได้จัดเตรียมกิจกรรมแห่งความสุขและรอยยิ้มของ “เมืองไทย Smile Club” ไว้ต้อนรับสมาชิกเมืองไทย Smile Club โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลหรือคะแนนสะสม Smile Point และนำคะแนนสะสม Smile Point แลกรับของที่ระลึก อีกทั้งลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตสามารถกรอกใบสมัครสมาชิกเมืองไทย Smile Club หรือ ปรับปรุงข้อมูลส่วนตัวสมาชิกเมืองไทย Smile Club เพื่อร่วมกิจกรรมและแลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้จัดเตรียมโปรโมชั่นและกิจกรรมความบันเทิงไว้อย่างมากมาย
หมายเหตุ : – การพิจารณารับประกันเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
– เงื่อนไขและข้อยกเว้นเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์
– สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ ต้องซื้อแนบท้ายกรมธรรม์ใหม่เท่านั้น
(1)เป็น % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ วันเริ่มสัญญา
(2) กรณีผู้เอาประกันภัย (สำหรับอายุรับประกันภัย15-59 ปี) ได้รับบาดเจ็บหรือเกิดโรคภัยจนกลายเป็นบุคคลทุพพลภาพโดยสิ้นเชิงและถาวร โดยพิสูจน์ได้ว่าเกิดการทุพพลภาพขึ้นระหว่างครบรอบปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยมีอายุครบ15 ปีบริบูรณ์ ถึงวันครบรอบปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยจะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และบริษัทฯ ได้รับหลักฐานการพิสูจน์โดยครบถ้วนแล้ว บริษัทฯ จะยกเว้นการชำระเบี้ยประกันชีวิตของแบบประกันภัยเมืองไทยซุปเปอร์เซฟวิ่ง 14/7 ที่ครบกำหนดชำระในระหว่างทุพพลภาพจนถึงสิ้นสุดระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย
(3)เบี้ยประกันภัยของสัญญาประกันภัยนี้สามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามประกาศอธิบดี กรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ ฉบับที่ 172
(4) โดยใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้เท่าที่จ่ายเป็นเบี้ยประกันภัย
•สำหรับเบี้ยประกันชีวิต ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000บาท
•สำหรับเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ในอัตราร้อยละ 15 ของเงินได้พึงประเมินซึ่งต้องเสียภาษีในแต่ละปี แต่ไม่เกิน 200,000 บาท ทั้งนี้รวมกัน ใช้สิทธิได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท
(5) เฉพาะแผน 2, 3, 4
(6) เฉพาะ แผน 3 หรือ 4
คำเตือน ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนการตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง