สรพ.ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย
ถอดบทเรียนรพ.มาตรฐานHA
สรพ.ลงพื้นที่เชียงราย ถอดบทเรียน รพ.คุณภาพมาตรฐานHA ตามรอยระบบการจัดการเวชศาสตร์ฉุกเฉิน เผยหัวใจความสำเร็จ “คน-สถานที่-ตัวระบบรองรับสถานการณ์” ต้องพร้อมลุยพัฒนางานภาวะฉุกเฉินอย่างต่อเนื่อง สร้างเครือข่ายความปลอดภัยคลอบคลุมพื้นที่ล้านนา 3 เชียงราย-พะเยา ทันสมัยที่สุดในประเทศด้วยระบบAOCติดตั้งในรถพยาบาลชุมชนทุกคัน ช่วยส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน ที่สามารถดูแลทำการรักษาตั้งแต่ต้นทางยันปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มโอกาสรอดชีวิตปลอดภัยสูงสุด
นพ.กิตตินันท์ อนรรฆมณี ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24-25 ม.ค.2562 ทางสถาบันรับรองคุณภาพและสถานพยาบาล(องค์กรมหาชน) หรือ สรพ.นำคณะผู้บริหารและสื่อมวลชนศึกษาดูงานการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลมาตรฐานHA ในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย ได้แก่ โรงพยาบาลแม่สาย และโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อศึกษาดูงานโรงพยาบาลที่ผ่านการประเมินและรับรองกระบวนการคุณภาพมาตรฐาน HA ซึ่งจังหวัดเชียงรายได้มีการพัฒนาระบบการส่งต่อผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน หรือการจัดการเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ที่เป็นระบบที่เอื้อต่อความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นอย่างดียิ่ง โดยโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งนี้ ผ่านการประเมินและรับรองคุณภาพมาตรฐาน HA จาก สรพ.แล้วทั้งสามารถบริหารจัดการงานในด้านต่าง ๆ ได้ดี ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์สูงสุด เช่น มีระบบการจัดการผู้ป่วยฉุกเฉินได้อย่างมีระบบ เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะในกรณีของ 13 หมู่ป่า ที่ทำให้เห็นถึงการเตรียมความพร้อมในการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินในภาวะเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ ส่งผลให้น้อง ๆ13 หมู่ป่าและโค้ชได้รับการส่งต่อและเข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็วและทันท่วงที
ผอ.สรพ. กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยมีโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองกระบวนการคุณภาพมาตรฐาน HA ทั้งสิ้น 782 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 66.04 ของโรงพยาบาลทั้งหมด เป็นโรงพยาบาลภาครัฐ 699 แห่ง และภาคเอกชน 83 แห่ง โดยเปอร์เซ็นต์การรับรองประกอบด้วย ประเภทโรงพยาบาลชุมชนร้อยละ 77.85 โรงพยาบาลทั่วไป ร้อยละ 88.54 โรงพยาบาลศูนย์ ร้อยละ87.88 โรงพยาบาลรัฐอื่น ๆในสังกัดสธ.ร้อยละ 73.44 โรงเรียนแพทย์/รพ.มหาวิทยาลัย ร้อยละ92.31 ขั้น3รวมโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองขั้นก้าวหน้ากรุงเทพมหานครสังกัดกทม.ร้อยละ 87.50
นพ.วัชรพงษ์ คำหล้า รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า กระบวนการพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาลเชียงรายอยู่ภายใต้กลุ่มงานพัฒนาคุณภาพระบบบริการภายใต้มาตรฐานในระบบHA โดยมีรพ.ในสังกัด18แห่ง ผ่านโรงพยาบาลมาตรฐาน HA ขั้น3 จำนวน17แห่ง และอีก1 แห่ง คือ รพ.ดอยหลวง โดยศูนย์HACC รพ.เชียงรายฯ เป็นศูนย์พี่เลี้ยงใหญ่ทางด้านวิชาการ ลิงค์ข้อมูลโดยตรงกับสรพ. และรพ.ในสังกัด สร้างกิจกรรมการเรียนรู้ กระตุ้น ย่อยข้อมูลสื่อสาร สรพ.จากตำรา วิชาการกำกับหลักสูตรรายงานผลเข้าสู่รพ.และเป็นพี่เลี้ยงช่วยส่งผลงาน HA Forum ประจำปี เพื่อนำไปสู่การปฎิบัติที่เข้าใจง่ายและนำไปใช้ในการทำงานได้โดยตรงโดยมีการติดตามดูแลช่วยเหลือเมื่อมีการร้องขอ เช่น รพ.ในชุมชนขนาดเล็กซึ่งในส่วนนี้จะทำหน้าที่ในการดูแลเพื่อให้เกิดพลังและไม่รู้สึกถูกทอดทิ้งเพื่อการบริการได้มีคุณภาพซึ่งท้ายที่สุดจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนซึ่งศูนย์HACCยังดูแลจังหวัดพะเยาด้วย
นพ.ศิริศักดิ์ นันทะ รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สาย จ.เชียงราย กล่าวว่า โรงพยาบาลมีขนาด 120 เตียง ให้บริการผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวเมียนมาร์ ในปี 2561มีผู้ป่วยนอกมารับบริการจำนวน 245937 ครั้งเป็นชาวไทย 57 %และชาวเมียนมาร์ 43 % โรคสำคัญในพื้นที่ได้แก่โรคติดต่อชายแดนคือ วัณโรค โรคเอดส์และไข้เลือดออก ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลได้มีการประสานงานระหว่างต่างประเทศสร้างระบบการรักษา การควบคุมโรค และระบบการส่งต่อผู้ป่วย ส่วนใหญ่ทางโรงพยาบาลใช้ระบบการส่งต่อระหว่างประเทศ หากคนไข้หนักจะส่งไปโรงพยาบาลเชียงราย หรือส่งต่อระหว่างโรงพยาบาลชุมชนกับโรงพยาบาลจังหวัด ซึ่งขณะนี้ได้พัฒนาระบบส่งต่ออย่างต่อเนื่องจนเป็นระบบมาตรฐาน
ด้าน นพ.สมศักดิ์ อุทัยพิบูลย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ถอดบทเรียนระบบการรับส่งต่อผู้ป่วยภาวะฉุกเฉินให้มีประสิทธิภาพนั้นต้อง เตรียมความพร้อม คน สถานที่ ตัวระบบรองรับสถานการณ์ รวมทั้งเป็นการทำงานร่วมมือกันอย่างบูรณาการของหลายทีม ไม่ว่าจะเป็น ทีม แพทย์ พยาบาล ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่แต่ละภาคส่วน มิใช่แค่บุคลากรด้านสธ.เพียงอย่างเดียวในการดำเนินการภายใต้จุดมุ่งหมายเดียวกัน
นพ.สมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ถือเป็นรพ.ศูนย์ที่ดูแลทั้งจังหวัด ขณะเดียวกันในภาคเหนือก็อยู่ในกลุ่มล้านนานั้นคือ เชียงราย พะเยา โดยขณะนี้มีระบบศูนย์AOC หรือระบบบริหารจัดการพยาบาลแบบรวมศูนย์ (Ambulance Operation Center) ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการสรุปถอดบทเรียนปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาการรีเฟอร์ส่งต่อผู้ป่วยในพื้นที่ จ.เชียงราย พะเยา ประกอบกับ เป็นช่วงที่พี่ตูน บอดี้แสลม ได้บริจาคเงินสำหรับซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ จึงนำงบประมาณตรงนั้น มาติดตั้งระบบAOC ซึ่งกรณีฉุกเฉินหมูป่า13 ชีวิตก็ดำเนินการโดยผ่านระบบศูนย์ AOC เช่นกัน ซึ่งมีระบบพร้อมคอยช่วยเหลือเด็ก ๆและได้ส่งอาการไปยังศูนย์ AOC รพ.เชียงรายฯ เพื่อประเมินอาการและเตรียมรับมือล่วงหน้า และถือเป็นกรณีศึกษาสำคัญจากเคสหมูป่าที่เราได้ดำเนินการปฎิบัติระบบศูนย์AOCของโรงพยาบาล
“เราจะมีการติดตั้งระบบในรถพยาบาลชุมชนในจังหวัดเชียงราย และในล็อต 2 จะมีการติดตั้งในรถพยาบาลชุมชนของจังหวัดพะเยาด้วยทั้งจังหวัดเช่นเดียวกัน การติดระบบAOC ในรถพยาบาลชุมชน ซึ่งภายในรถจะมีระบบกล้องผ่านระบบอินเตอร์เนต ติดต่อกับศูนย์AOC ที่รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งสามารถเห็นภาพผู้ป่วย ตั้งแต่ต้นทาง จนถึงปลายทาง ทั้งอาการของผู้ป่วย ก็จะมีทีมปรึกษา ให้คำแนะนำ เจ้าหน้าที่ในรถให้สามารถดำเนินการแก้ไขได้ทันทีเพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยอย่างรวดเร็วที่สุดผ่านระบบสื่อสารด้วยภาพและเสียงแบบเรียลไทม์ ซึ่งสามารถเตรียมการรักษา ได้ถูกต้องทันท่วงที รวมทั้งเราสามารถควบคุม ติดตาม การขับรถของพนักงานขับรถได้ เช่นความเร็ว ซึ่งถือเป็นระบบที่ทันสมัยและเพื่อสร้างความปลอดภัย และโอกาสรอดชีวิตให้กับผู้ป่วยได้มากที่สุด” นพ.สมศักดิ์ ระบุ