มหกรรม OTOP เที่ยวเพชรบูรณ์
สนุกx2ไปแล้วจะรู้.อยู่แล้วจะรัก
จังหวัดเพชรบูรณ์ เดินหน้าผลักดันสินค้า OTOP ปี 62 สู่ชุมชนเมืองสร้างความเข้มแข็ง ยกระดับขีดความสามารถแข่งขันของชาวเกษตรกร อุตสาหกรรมบริการ และ การค้าการลงทุน จัดทัพสินค้าดาวเด่นผู้ผลิต ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ OTOP จำนวน 50 กลุ่ม บุกใจกลางกรุง จัด 5 วัน 26 -30 เมษายนนี้ เจาะตลาดคนกรุงเทพฯและจังหวัดใกล้เคียง ในขณะเดียวกันเปิดแผนท่องเที่ยว ขยายแหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรมใหม่ๆ ดึงชาวต่างชาติ เที่ยวเพชรบูรณ์เพิ่มตลอดปี ตั้งเป้าโต 15% จากยอดรายได้ท่องเที่ยว 80,000 ล้านบาท มีนักท่องเที่ยวเข้ามาปี 62 จำนวน 2.5 ล้านคน
นายพงษ์พิทยา ธนไกรศรีทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นประธานเปิดงาน มหกรรม OTOP เที่ยวเพชรบูรณ์ สนุก x 2 ไปแล้วจะรู้… อยู่แล้วจะรัก… ” ณ ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิตพร้อมกล่าวว่า จังหวัดเพชรบูรณ์ เดินหน้าผลักดันสินค้า OTOP ปี 62 สู่ชุมชนเมืองสร้างความเข้มแข็ง ยกระดับขีดความสามารถแข่งขันของชาวเกษตรกร อุตสาหกรรมบริการ และการค้าการลงทุนจัดทัพสินค้าดาวเด่นผู้ผลิตผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ OTOP จำนวน 50 กลุ่ม ขายในฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต 5 วัน ขยายช่องทางจำหน่ายให้ผู้ประกอบการสินค้าโอท็อป และกลุ่มท่องเที่ยว จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นเมืองมีของดีหลายอย่างและเป็นเมืองท่องเที่ยว มาถึงเพชรบูรณ์ต้อง 678 หมายถึง 6 อย่างต้องกิน 7 อย่างต้องซื้อ 8 อย่างที่ต้องไปเที่ยวและเตรียมจัดมหกรรมสินค้า OTOP เพื่อให้ชาวกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงได้รับทราบ เพิ่มช่องทางการตลาดของผู้ประกอบการและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด
ด้านนายประดิษฐ์ หลวงจอก พัฒนาการจังหวัดเพชรบูรณ์ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด กล่าวว่าในปี 2562 ได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน(OTOP)สู่ตลาดใหม่ ๆ ให้กับผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ ผลิตภัณฑ์ OTOP กลุ่มท่องเที่ยว จำนวน 50 กลุ่ม เข้าร่วมกิจกรรมจังหวัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตามโครงการ 1 ครั้ง ระยะเวลา 5 วัน โดยบุกใจกลางเมืองเป็นงาน “มหกรรม OTOPเพชรบูรณ์เที่ยวเพชรบูรณ์ สนุกx2ไปแล้วจะรู้…อยู่แล้วจะรัก…” 5วัน
โดยพบกับบรรยากาศ เที่ยวเพชรบูรณ์ สนุกx2 สนุกสุดมัน ผลิตภัณฑ์ชุมชน ระหว่างวันที่ 26-30 เมษายน 2562 ณ ฟิวเจอร์ ปาร์ค รังสิต ลานสินค้า อไลฟ์ ฮอล์ล ชั้น G คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานและมาจับจ่ายต่อวัน 8,000-10,000 บาท จากยอดผู้เข้าห้างสรรพสินค้าวันละ 157,000 คนเพื่อดันสินค้าโอท็อปเพชรบูรณ์ ที่เป็นอีกกลุ่มที่ผลักดันตลาดสินค้าโอท็อปรวม ทะยานสู่ 2 แสนล้านบาท ตามนโยบายกรมพัฒนาชุมชน
นางธีรพร พรพฤฒิพันธุ์ ประธานเครือข่ายโอท็อป จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ที่นำมาจำหน่ายมีทั้งอาหาร มะขาม กาแฟ แมคคาเดเมีย ไก่ย่างวิเชียรบุรี ผลิตภัณฑ์ผ้าทอ ผ้าเขียนเทียน ผ้าปัก ผ้าลายมุก เครื่องประดับ เซรามิค และนำเสนอการท่องเที่ยว แนะนำเขาค้อ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ที่กำลังเสนอเพื่อเป็นมรดกโลก
ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดได้กล่าวถึง ยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบูรณ์ว่า เดิมมีนักท่องเที่ยวไทยมากถึง 90% กำลังจะดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา ซึ่งการจะเดินสู่เป้าหมายดังกล่าวได้ต้องทำให้เป็นระดับโลก ทำให้นักท่องเที่ยวมาได้ทั้งปีจากปัจจุบันมาได้เพียง 4 เดือน ช่วงฤดูหนาว ฤดูฝน ในช่วงฤดูร้อนจะต้องทำอย่างไรเพื่อดึงนักท่องเที่ยวมา โดยที่ผ่านมาทางจังหวัดมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง มีการเสนอองค์การสหประชาชาติ (UN)เพื่อให้เป็นมรดกโลก ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์ ศรีเทพ ที่ได้เสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว และมีคณะกรรมการที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานเพื่อพิจารณาแล้ว ซึ่งได้ในระดับชาติแล้ว ในขั้นต่อไปจะเสนอยูเอ็นเพื่อเป็นระดับโลก
ทางด้านอุทยานธรณีวิทยารอการมาตรวจ โดยกำลังเสนอคณะกรรมการที่มีพล.อ.ประวิตร เป็นประธานเหมือนกันพิจารณา เพื่อดันให้เป็นมรดกโลก ซึ่งเสนอไป 14 แห่ง แต่ถูกท้วงติงเรื่องไกลและมีอยู่ทุกอำเภอ จึงขอให้เหลือเพียง 2 แห่งได้แก่ น้ำหนาวและหล่มสัก เพื่อเป็นอุทยานธรณีวิทยา “เมื่ออุทยานธรณีวิทยานี้ไปอยู่ในกูเกิล ไปอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลกของยูเอ็นแล้ว นักท่องเที่ยวก็จะมา”
นอกจากนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ยังชูจุดแข็งของเพชรบูรณ์ในเรื่องของอากาศที่ดี การมีแหล่งธรรมชาติที่เกิดขึ้น และมีแหล่งวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นจากการสร้าง เช่น พระบาทซ่อนแก้ว และต่อไปจะมีสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มเพื่อดึงดูดคนมาพักไม่ใช่แวะมาแล้วผ่านไป เช่น สร้างพุทธมณฑลที่เป็นเจดีย์รูปพระธรรมจักร ซึ่งจะเป็นหอชมเมือง เป็นสกายวอล์ค เพื่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อดึงนักท่องเที่ยว โดยล่าสุดร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจัดอีเวนต์ที่สำคัญ เป็นกีฬาผู้สูงอายุ ซึ่งเพชรบูรณ์มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว สถานที่พักต่าง ๆ พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว ผู้สูงวัย
อีกทั้งยังมีความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานราชการและเอกชน ช่วยพัฒนาจังหวัดให้เป็นที่รู้จักทั้งแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวที่สร้างขึ้นมา รวมทั้งสินค้า ของกินให้เพิ่มมากขึ้น ผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ที่มีส่วนสำคัญช่วยด้านท่องเที่ยวและส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ด้วย
ทั้งนี้ได้ตั้งเป้ามีนักท่องเที่ยวมาเพชรบูรณ์เพิ่ม 5-10% ต่อเนื่องทุกปี ปัจจุบันมีมากกว่า 2 ล้านคนต่อปี ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 2.5ล้านคนในปีนี้ ขณะที่ยอดขายสินค้า OTOP รวมของจังหวัดอยู่ที่ประมาณ 80,000 ล้านบาทต่อปี