วช.-ม.วลัยลักษณ์ นำสื่อมวลชน
ร่วมมอบตลาดน้ำคลองงา พังงา
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และจังหวัดพังงาจัดพิธีปิดฤดูกาลท่องเที่ยวและส่งมอบตลาดน้ำคลองงาให้ชุมชน ณ ตลาดน้ำคลองงา จังหวัดพังงา เปิดฤดูกาลถัดไปในช่วงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๒ เผยเปิดตลาด 4 เดือนที่ผ่านมาสร้างรายได้ชุมชนมากกว่า ๕๐ ล้านบาท มีนักท่องเที่ยว เข้าชมกว่า ๒๐,๐๐๐ คนต่อนัด
ศาสตราจารย์นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า โครงการ Innovation เป็นความร่วมมือภายใต้บันทึกข้อตกลงระหว่าง วช. กับ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และเครือจ่ายวิจัยอุดมศึกษา ๔ ภูมิภาค โดยศูนย์วัฒนธรรมเพื่อเศรษฐกิจสร้างสรรค์ภาคใต้ตอนบน และองค์กรเครือข่ายชุมชนของจังหวัดพังงา ได้จัดตั้งศูนย์นวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจสร้างสรรค์ภาคใต้ ตอนบนขึ้น ภายใต้อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในชุมชน โดยมีเป้าหมายกระจายรายได้จากแหล่งท่องเที่ยวหลักสู่ชุมชน จำนวน ๒ แห่ง ได้แก่ อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช และพื้นที่จังหวัดพังงา
ศูนย์นวัตกรรมฯ ได้นำโครงการวิจัยเข้าไปพัฒนาพื้นที่ จัดตั้ง Creative Market ภายใต้แนวคิด “ตลาดนัดชุมชนเพื่อการท่องเที่ยว : สวนสร้างบุญลานสกา” ซึ่งสามารถสร้างรายได้มากกว่า ๑๕ ล้านบาท และศูนย์ได้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเกิดใหม่ให้ชุมชน อาทิ น้ำตกวังไทร สวนมังคุดโบราณลานสกา พร้อมต่อยอดประชาสัมพันธ์ให้ลานสกาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งในกลุ่มเมืองรอง และได้นำโมเดลของลานสกามาขยายผลสู่จังหวัดพังงา
ทั้งนี้จังหวัดพังงา ได้รับการขับเคลื่อนด้านการพัฒนาท่องเที่ยวโดยลานสกาโมเดลมาเป็นต้นแบบ ในการจัดตั้ง Creative Market ร่วมกับหอการค้าจังหวัดพังงา ชุมชนเมืองในเขตเทศบาลเมืองพังงา เทศบาลเมืองพังงา องค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา และองค์กรเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อีก ๑๓ หน่วยงาน ได้ร่วมกันสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในชุมชน จัดการศึกษาดูงานและเลือก “หลาดน้ำคลองงา” เพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นตลาดอินทรีย์ สร้างรายได้เพิ่มให้กับคนในชุมชน เป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่รองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มที่จะเข้ามา “ชม แชะ ชิม ช้อป” และพร้อมจะต่อยอดไปสู่การท่องเที่ยวของทุกชุมชนในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง
“หลาดน้ำคลองงา” หรือตลาดน้ำคลองพังงา มีจุดเด่นที่มองเห็นทิวทัศน์สวยงามทุกทิศทาง ทิศเหนือมองผ่านสายน้ำและคลองพังงาไปก็จะเห็นสะพานบ้านฝ่ายท่า ที่มีภูเขาพิงงาเป็นพื้นหลัง เป็นต้น สมกับคำว่า “พังงา เมืองสวยในหุบเขา” มีนักท่องเที่ยวเข้าชมกว่า ๒๐,๐๐๐ คนต่อนัด มีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า ๒ ล้านบาทต่อนัดและสร้างรายได้ให้เกิดแก่ชุมชนมากกว่า ๕๐ ล้านบาท ภายในระยะเวลา ๔ เดือนที่เปิดตลาด
และในปี ๒๕๖๒ นี้ปิดฤดูกาลท่องเที่ยวหลาดน้ำคลองงาลงในวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๒ และเปิดฤดูกาลถัดไปในช่วงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๒ ทางศูนย์ฯ จะส่งมอบตลาดให้กับจังหวัดพังงา เพื่อดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ศูนย์ได้มีการวางระบบและกระบวนการไว้สำหรับดำเนินการในฤดูถัดไป โดยจะยังคงทำหน้าที่ดูแลตลาดในฐานะพี่เลี้ยง